ต้องยอมรับเลยว่า เมืองไทยเป็นเมืองร้อนที่ขาดเครื่องปรับอากาศอย่างแอร์ไม่ได้จริง ๆ การเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟจึงเป็นสิ่งที่ทุกบ้านนั้นต้องการ เนื่องจากจำเป็นต้องเปิดใช้งานระหว่างวันอย่างหนัก และบางบ้านก็จำเป็นต้องเปิดตลอดทั้งวัน
จึงทำให้การเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ เพื่อช่วยลดปัญหาค่าไฟแพง จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้อย่างแน่นอน มาดูรวมเคล็ดลับการเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ ที่จะช่วยทำให้คุณหายร้อน และเซฟค่าไฟที่ต้องจ่ายทุกเดือนลงไปอีกด้วย
สารบัญ
เคล็ดลับวิธีการเปิดแอร์ 5 อย่าง เปิดอย่างไรให้ประหยัดไฟได้ผลจริง
1. เลี่ยงการเปิดแอร์ในพื้นที่เปิดโล่ง
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการเปิดแอร์ในพื้นที่โล่งกว้าง อย่างห้องนั่งเล่นที่มีทางขึ้นบันได หรือทางเดินไปห้องอื่น ๆ โดยไม่มีประตูกั้น หรือคอนโด 2 ชั้นที่ไม่มีการกั้นห้องนอน และไม่มีการกั้นพื้นที่ห้องอื่น ๆ จะส่งผลทำให้แอร์ไม่เย็น
ทำให้นอกจากแอร์ไม่เย็นแล้ว ยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อทำความเย็นให้ได้ตามอุณหภูมิที่เราตั้งเอาไว้ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงตามไปด้วย
ฉะนั้น ถ้าหากพักอาศัยอยู่ในคอนโดหรือบ้านที่มีลักษณะดังกล่าว แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิดเพิ่มเข้าไป เพื่อกั้นทางขึ้นบันได รวมถึงทางเดินไปห้องอื่น ๆ เพียงเท่านี้แอร์ก็ทำงานน้อยลง ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากทีเดียว
2. เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
บางครั้งการเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อระบายความร้อน และกลิ่นอับที่สะสมในห้องพักออก ก่อนเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ จะทำให้แอร์เย็นเร็วขึ้น และเครื่องไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
และเพื่อเซฟค่าไฟไปอีกขั้น อย่าลืมปิดม่านให้เรียบร้อย เพื่อลดอุณหภูมิจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากภายนอกอีกด้วย
3. เปิดแอร์พร้อมพัดลม
การเปิดแอร์พร้อมพัดลม จะช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23 ถึง 24 องศาเซลเซียสอย่างที่หลาย ๆ คนชอบทำกัน
เนื่องจากว่าการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูง ตัวคอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานน้อยลง ส่งผลทำให้แอร์กินไฟน้อยลงด้วย ประกอบกับเปิดพัดลมเป่ามาที่ตัวเพิ่มเข้าไป
ทำให้นอกจากรู้สึกเย็นสบายขึ้นกระแสลมที่มาปะทะตัวแล้ว ยังทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนออกจากร่างกายได้ดีขึ้นตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้เอง การเปิดแอร์ 27 องศาเซลเซียส พร้อมพัดลม จึงช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง
4. เปิดแอร์เท่าที่จำเป็น
ใครที่กำลังสงสัยว่า ควรเปิดแอร์กี่ชั่วโมงดี ถึงช่วยประหยัดค่าไฟ แม้เรื่องนี้ไม่มีคำตอบตายตัว แต่การเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น ก็ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าน้อยลง
ยกตัวอย่างเช่น การเปิดแอร์ช่วงเที่ยงหรือตอนบ่ายที่มีอากาศร้อนจัด แทนการเปิดแอร์ตั้งแต่ช่วงเช้าที่อากาศยังไม่ร้อนมาก แล้วปิดแอร์ประมาณช่วง 5 โมง ถึง 6 โมงเย็น เพื่อให้เครื่องได้พักและไม่ทำงานหนักจนเกินไป
โดยระหว่างนี้ อาจเปิดหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเทพร้อมเปิดพัดลมคู่กัน ก่อนเปิดแอร์อีกครั้งตอนนอน เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดค่าไฟได้ไม่น้อยทีเดียว ที่สำคัญ ก่อนออกจากบ้านควรปิดแอร์ให้เรียบร้อย ไม่งั้นอาจได้จ่ายค่าไฟที่สูงกว่าเดิมแน่นอน
5. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน
เมื่อหน้าที่หลักของแอร์คือการลดอุณหภูมิของห้อง เพื่อให้ได้สภาพอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน
ดังนั้น การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ให้ความร้อนอย่างเตารีด กระติกน้ำร้อน หรือกระทะไฟฟ้า อาจทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นในห้อง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ การหลีกเลี่ยงไม่นำของร้อนเข้ามาในห้อง จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าไฟได้อีกวิธีหนึ่งเช่นกัน
รวมเคล็ดไม่ลับก่อนการติดตั้งแอร์ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
1. เลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดไฟ
การเลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และยังประหยัดไฟในประเทศไทยนั้น ถือว่าทำได้ง่าย เพียงสังเกตจากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. นั่นเอง
ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และประหยัดไฟยิ่งกว่าเดิม เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว โดยยิ่งดาวมาก ก็จะยิ่งประหยัดไฟมากขึ้น พร้อมทั้งดูแลอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
2. เลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง
การเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง จะพิจารณาจากค่า BTU/hr (British Thermal Unit per hour) ซึ่งเป็นหน่วยสากลที่ใช้วัดขนาดความเย็นของแอร์ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประหยัดพลังงาน
โดยคนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อแอร์ขนาดใหญ่ เพื่อให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะการใช้แอร์ที่มี BTU สูงเกินความจำเป็นกับขนาดห้อง จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย
ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ลดน้อยลง และทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูงส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สบายตัว รวมถึงมีราคาแพงเกินความจำเป็น
แต่หากเลือกแอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไป การทำความเย็นก็จะช้า ไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งเอาไว้ รวมถึงคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักจนเกินไป ทำให้แอร์เสียเร็ว สิ้นเปลืองพลังงาน และค่าไฟแพงขึ้นตามไป
3. เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ และคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม
การเลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ และคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ตกหล่นไปเพราะความไม่รู้
โดยควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ในทิศตะวันตก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะโดนแสงแดดส่องในช่วงบ่าย ทำให้มีความร้อนที่สูง แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้นจากความร้อนนั้น
เช่นเดียวกับการติดตั้งคอมเพรสเซอร์ ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน ดาดฟ้า มุมอับที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท หรือได้รับแสงแดดโดยตรง
เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นอุปกรณ์ระบายความร้อน จึงควรอยู่ในที่ร่ม และยกสูงเหนือพื้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและประหยัดพลังงานนั่นเอง
4. ล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน
เมื่อแอร์ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แม้เปิดในอุณหภูมิที่ต่ำแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าเย็น เพราะภายในแอร์มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น
ฉะนั้น การล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน จึงทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และปล่อยลมเย็นได้เหมือนเดิม รวมถึงประหยัดค่าไฟได้มากถึง 10 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
ตัวเลือกการประหยัดไฟ ต้องระบบโซล่าเซลล์จาก Electronmove
อีกหนึ่งตัวเลือกในการเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟอีกหนึ่งทาง คือระบบโซล่าเซลล์จาก Electronmove โดยในปัจจุบัน Service & Product แพ็กเกจโซล่าเซลล์สําหรับบ้านของ Electronmove นั้นมี 2 แพ็กเกจด้วยกัน โดยจะมีบริการพิเศษให้กับลูกค้าผู้ติดตั้งของเรา นั่นคือ
- ล้างแผงฟรี 6 ครั้ง
- ตรวจเช็กประจำปี
พร้อมทั้งโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะลูกค้าของ Electronmove ที่สามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน ด้วยบัตรเครดิตของกสิกร หรือบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ รวมไปถึงการทำเรื่องเอกสารต่าง ๆ กับทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง หรือการขายไฟให้การไฟฟ้า โดยจะแบ่งแพ็กเกจออกได้ ดังนี้
แพ็กเกจ Enphase IQ8P
เป็นราคาแพ็คเกจติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ พร้อมอินเวอร์เตอร์ของ Enphase IQ8P รวมไปถึงการขออนุญาตหน่วยงานราชการที่ดำเนินการให้ทั้งหมด
อีกทั้งยังรับประกันการติดตั้งระบบ 5 ปี, รับประกันอินเวอร์เตอร์ Enphase IQ8P อีก 15 ปี และรับประกันแผงโซล่าเซลล์อีกถึง 30 ปี ซึ่งปัจจุบัน จะมี 4 แพ็กเกจ ดังนี้
Enphase Inverter 5.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 1 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 8
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 224,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 3,000 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 6.25 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 10
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 280,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 4,000 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 7.50 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 12
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 318,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 4,600 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 10.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 16
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 394,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 6,500 บาทต่อเดือน
แพ็กเกจ Huawei + Optimizer
เป็นราคาแพ็คเกจติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ พร้อมอินเวอร์เตอร์ของ Huawei + Optimizer รวมไปถึงการขออนุญาตหน่วยงานราชการที่ดำเนินการให้ทั้งหมด
อีกทั้งยังรับประกันการติดตั้งระบบ 5 ปี, รับประกันอินเวอร์เตอร์ Huawei + Optimizer อีก 10 ปี และรับประกันแผงโซล่าเซลล์อีกถึง 30 ปี ซึ่งปัจจุบัน จะมี 4 แพ็กเกจ ดังนี้
Huawei + Optimizer 5.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโฮมออฟฟิต และโรงงานขนาดเล็ก
ระบบไฟฟ้า : 1 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-5TKL – L1
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 8
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 179,990 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 3,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 10.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโฮมออฟฟิต และโรงงานขนาดเล็ก
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-10TKL – M1
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 16
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 329,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 6,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 15.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก และโรงงานขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-15TKL – M1
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 24
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 409,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 9,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 20.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโรงงานขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซล่าเซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-20TKL – M1
จำนวนแผงโซล่าเซลล์ : 32
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 529,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 12,000 บาทต่อเดือน
สรุป
นอกจากเคล็ดลับการเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟที่ให้ไปข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งหนทางที่ช่วยให้เราสามารถประหยัดเงินค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายไปทุกเดือนได้อย่างยั่งยืน ก็คือการที่เราติดตั้งใช้งานระบบโซล่าเซลล์ ที่เป็นพลังงานสะอาดที่ผลิตได้อย่างไม่มีวันหมด
ซึ่งหากจะติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ให้กับบ้านของเราเพื่อใช้งานแล้ว การมองหาผู้ติดตั้งที่มีความน่าเชื่อถือ และมีบริการหลังการขายที่ครบครัน รวมไปถึงมีการรับประกันระบบอย่างครอบคลุม เว็บไซต์ Electronmove ของเรา หรือทาง Line Official @electronmove และช่องทางการติดต่อของ Electronmove เบอร์โทร : 093-659-4545 (เซลล์) 093-552-4444 (บริการหลังการขาย)
E-mail : support@electronmove.co.th