ปัจจุบันกระแส หลังคาโซลาร์เซลล์ เป็นที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะกับในประเทศไทยที่ไม่ว่าจะในฤดูไหน ดวงอาทิตย์ก็ยังคงส่องสว่าง ให้แสงได้อย่างไม่มีวันหยุด
ทำให้โซล่ารูฟท็อป คือสิ่งใหม่ที่กลายเป็นที่สนใจในวงกว้าง
แต่การติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์มีราคาที่สูงระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับโซลาร์เซลล์แบบสำเร็จรูปอาจมีราคาที่ถูกกว่า แต่ความคุ้มค่าในการใช้งาน และการช่วยประหยัดไฟนั้นแตกต่างกัน ซึ่งมีความคุ้มค่าในการลงทุนที่แตกต่างกัน
สารบัญ
โซล่ารูฟท็อป คืออะไร ทำความรู้จักการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน
ระบบโซล่ารูฟท็อป เป็นระบบเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยวิธีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของอาคารต่าง ๆ ที่ต้องการใช้งานระบบดังกล่าว
โดยระบบจะเริ่มทำงานเมื่อแผงโซลาร์เซลล์ได้รับแสงอาทิตย์ และจะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง จากนั้นเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า หรืออินเวอร์เตอร์ แปลงเป็นไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ
เพื่อได้ไฟฟ้ากระแสสลับแล้ว จะทำการส่งให้ต่อไปสำรองหรือใช้งานกับเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในโรงงานหรืออาคารได้นั่นเอง
ดังนั้น หากถามว่าการติดโซลาร์เซลล์ ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง ก็เรียกได้ว่ามีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 30 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์จากปกติ อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ โซลาร์เซลล์ยังมีอายุการใช้งานที่นาน 20 ถึง 25 ปี และในปัจจุบัน ทางภาครัฐยังสนับสนุนการติดโซลาร์เซลล์ ด้วยการให้สามารถขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย
จุดคุ้มทุนของการลงทุนโซล่ารูฟท็อป คือเมื่อไหร่
แม้ว่าการติดโซลาร์เซลล์จะช่วยลดค่าไฟได้ แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง โดยค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 ถึง 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละบ้านหรืออาคารหลังดังกล่าว
โดยถ้าหากเป็นบ้านขนาดเล็ก จะเหมาะกับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 1.5 กิโลวัตต์ โดยมีค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 ถึง 100,000 บาท
ส่วนบ้านขนาดกลาง จำเป็นต้องใช้แผงโซลาร์เซลล์ 3 ถึง 5 กิโลวัตต์ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ประมาณ 150,000 ถึง 200,000 บาท และถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่ หรือ ธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ต้องใช้แผงโซลาร์เซลล์อยู่ที่ 7 ถึง 10 กิโลวัตต์ โดยจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300,000 ถึง 500,000 บาท
และการคืนทุนในการใช้งานโซลาร์เซลล์จะอยู่ที่ 3 ถึง 5 ปีถึงจะคุ้มทุนหากมีการใช้งานในช่วงกลางวันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการพิจารณาความคุ้มทุนนั้น จะต้องประเมินดูว่าในช่วงเวลากลางวันมีการใช้ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน
และจากนั้น ให้นำปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้ในช่วงกลางวัน ไปคำนวณหาขนาด และระบบของโซลาร์เซลล์ที่ต้องการติดตั้ง
ซึ่งจุดนี้จะทำให้รู้ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในโซลาร์เซลล์มากเท่าไร จากนั้นให้นำปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในช่วงกลางวัน ไปคำนวณหาค่าไฟฟ้าจากระบบกลางปกติ
โดยค่าไฟฟ้าในส่วนนี้ จะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถประหยัดลงไปได้ หากมีการติดโซลาร์เซลล์ ให้นำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาหารเงินลงทุนในโซลาร์เซลล์ทั้งหมดที่ลงทุนไป ก็จะรู้ว่าต้องใช้โซลาร์เซลล์กี่ปีถึงจะคืนทุนนั่นเอง
โดยอายุการใช้งานของโซลาร์เซลล์นั้น มีระยะเวลามากกว่า 25 ปีเลยทีเดียว หากมีการบำรุง ดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานยังอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้
แต่การบำรุงรักษา และตรวจสอบระบบโซลาร์เซลล์ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่ต้องนำมาคำนวณในเรื่องของความคุ้มทุนด้วยเช่นกัน
ทำความรู้จักโซลาร์เซลล์แบบสำเร็จรูป แตกต่างจากหลังคาโซลาร์เซลล์อย่างไรกันนะ
แน่นอนว่า นอกจากระบบโซล่ารูฟท็อปแล้ว ยังมีระบบโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปที่มีราคาที่ถูกกว่าด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นแบบเฉพาะทางที่ให้พลังงานได้ไม่มาก เมื่อเทียบกับระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ ซึ่งมีดังนี้
1. ชุดโซลาร์เซลล์ให้แสงสว่าง
ในช่วงที่สิ้นแสงอาทิตย์แล้ว ความสว่างในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง รอบบ้าน ประตูรั้ว ทั้งที่บ้านและที่สวน ก็เป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็น
ชุดโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปสำหรับให้แสงสว่างในปัจจุบัน จึงได้มีการออกแบบมาให้พร้อมใช้งานด้วยลักษณะที่หลากหลาย
ทั้งในรูปแบบไฟสปอตไลท์ ไฟถนน ไฟแสงสว่างพร้อมกล้องวงจรปิด ที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมสื่อสารกับคนในพื้นที่นั้นได้ด้วย
นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนยุคใหม่ ที่ต้องการจะสร้างความปลอดภัยให้กับสถานที่ต่าง ๆ นั่นเอง
2. ชุดโซลาร์เซลล์บ้านสวน
สำหรับผู้ที่มีบ้านพักไว้ปลีกวิเวก ไปทำสวน หรือพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ชุดโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปสำหรับบ้านสวน ก็ตอบโจทย์การใช้งานในระดับหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องไปขอต่อมิเตอร์จากการไฟฟ้า ที่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอีกพอสมควร
ด้วยระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 2,000 วัตต์ สามารถทำให้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ พัดลม คอมพิวเตอร์ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ซึ่งมีการเปิดใช้งานในบางช่วงเวลา
โดยชุดโซลาร์เซลล์บ้านสวน จะใช้แผงโซลาร์เซลล์ขนาด 250 วัตต์ประมาณ 8 แผง และแบตเตอรี่เก็บสำรองไฟจำนวน 4 ลูก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายพอสมควรเช่นกัน
3. ชุดโซลาร์เซลล์นอนนา
สำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่นาอยู่ห่างไกล ไม่มีสายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเข้าไปถึงพื้นที่ หรือยังไม่ได้ทำการขอมิเตอร์ไฟฟ้าแบบเกษตร รวมถึงต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสาย และลดค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย
ชุดโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปสำหรับการนอนเฝ้านา ที่สามารถนำมาประกอบใช้งานเพื่อผลิตไฟฟ้า ให้นำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้จำนวนเพียงพอต่อการอำนวยความสะดวกระดับหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็น การให้กับหลอดไฟเพื่อแสงสว่าง การเปิดพัดลมหากอากาศร้อน รวมไปถึงเปิดโทรทัศน์เพื่อติดตามข่าวสารและความบันเทิง โดยใช้แผงโซลาร์เซลล์เพียง 100 วัตต์ขึ้นไปต่อแผง ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าชุดโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปเหล่านี้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเฉพาะด้าน ซึ่งหากใครที่ต้องการใช้งานระบบโซลาร์เซลล์ที่ต้องการกำลังการผลิตที่มากขึ้น ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์กับชุดโซลาร์เซลล์สำเร็จรูปเหล่านี้เช่นเดียวกัน
ทำให้การเลือกใช้งานหลังคาโซลาร์เซลล์ หรือโซล่ารูฟท็อป คืออีกตัวเลือกที่ดีมากกว่า เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของเรา เพียงแค่ปรึกษากับตัวแทนติดตั้งที่มีคุณภาพอย่าง Electronmove เท่านั้น
ราคาของหลังคาโซลาร์เซลล์ในปัจจุบันจาก Electronmove
ในปัจจุบัน Service & Product แพ็กเกจหลังคาโซลาร์เซลล์สําหรับบ้านของ Electronmove นั้นมี 2 แพ็กเกจด้วยกัน โดยจะมีบริการพิเศษให้กับลูกค้าผู้ติดตั้งของเรา นั่นคือ
- ล้างแผงฟรี 6 ครั้ง
- ตรวจเช็กประจำปี
พร้อมทั้งโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะลูกค้าของ Electronmove ที่สามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน ด้วยบัตรเครดิตของกสิกร หรือบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ โดยจะแบ่งแพ็กเกจโซล่าเซลล์ราคาคุ้มค่าออกได้ ดังนี้
แพ็กเกจ Enphase IQ8P
เป็นราคาแพ็คเกจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ พร้อมอินเวอร์เตอร์ของ Enphase IQ8P รวมไปถึงการขออนุญาตหน่วยงานราชการที่ดำเนินการให้ทั้งหมด
อีกทั้งยังรับประกันการติดตั้งระบบ 5 ปี, รับประกันอินเวอร์เตอร์ Enphase IQ8P อีก 15 ปี และรับประกันแผงโซลาร์เซลล์อีกถึง 30 ปี ซึ่งปัจจุบัน จะมี 4 แพ็กเกจ ดังนี้
Enphase Inverter 5.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 1 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 8
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 224,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 3,000 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 6.25 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 10
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 280,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 4,000 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 7.50 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 12
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 318,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 4,600 บาทต่อเดือน
Enphase Inverter 10.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับบ้านขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type
อินเวอร์เตอร์ : Enphase IQ8P
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 16
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 394,555 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 6,500 บาทต่อเดือน
แพ็กเกจ Huawei + Optimizer
เป็นราคาแพ็คเกจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ พร้อมอินเวอร์เตอร์ของ Huawei + Optimizer รวมไปถึงการขออนุญาตหน่วยงานราชการที่ดำเนินการให้ทั้งหมด
อีกทั้งยังรับประกันการติดตั้งระบบ 5 ปี, รับประกันอินเวอร์เตอร์ Huawei + Optimizer อีก 10 ปี และรับประกันแผงโซลาร์เซลล์อีกถึง 30 ปี ซึ่งปัจจุบัน จะมี 4 แพ็กเกจ ดังนี้
Huawei + Optimizer 5.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโฮมออฟฟิต และโรงงานขนาดเล็ก
ระบบไฟฟ้า : 1 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-5TKL – L1
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 8
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 179,990 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 3,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 10.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโฮมออฟฟิต และโรงงานขนาดเล็ก
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-10TKL – M1
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 16
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 329,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 6,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 15.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก และโรงงานขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-15TKL – M1
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 24
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 409,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 9,000 บาทต่อเดือน
Huawei + Optimizer 20.00 kW
ความเหมาะสม : เหมาะกับโรงงานขนาดกลาง
ระบบไฟฟ้า : 3 เฟส
แผงโซลาร์เซลล์ : Jinko 625W N-type BIFACIAL
อินเวอร์เตอร์ : Huawei + Optimizer SUN2000-20TKL – M1
จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ : 32
การขายไฟ : ขายไฟได้
ราคาแพ็กเกจ : ราคาพร้อมติดตั้ง 529,999 บาท (*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น)
ลดค่าไฟได้เฉลี่ย : 12,000 บาทต่อเดือน
สรุป
หลังคาโซลาร์เซลล์ หรือโซล่ารูฟท็อป คือตัวเลือกใหม่สำหรับการประหยัดค่าไฟอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว ที่จะคืนทุนให้กับเราหากใช้หนักภายใน 4 ถึง 5 ปี และใช้ได้ต่อยาวนานถึง 25 ปีเลยนั่นเอง
ซึ่งหากใครที่มองแล้วว่าโซลาร์เซลล์แบบสำเร็จรูปนี้ไม่ตอบโจทย์ของตัวเอง จากการที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และต้องการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แล้วล่ะก็ อย่าลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างเรา Electronmove
ที่มีพร้อมให้ทั้งการปรึกษาในการติดตั้งออกแบบระบบโซลาร์เซลล์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเรา การตรวจสอบหน้างานเพื่อประเมินความเหมาะสม รวมไปถึงยังมีช่างผู้ชำนาญการในการติดตั้ง มั่นใจได้จากประสบการณ์ในการทำงานกับโครงการหมู่บ้านต่าง ๆ กว่า 12 โครงการ
นอกจากนั้น ยังมีบริการหลังการขายที่ครบครัน ช่วยดูแลให้ระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งไปนี้ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
ซึ่งหากใครที่สนใจอยากจะติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ ด้วยทีมช่างชำนาญการที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางระบบ ที่มาพร้อมบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ก็สามารถติดต่อเข้ามาดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ Electronmove ของเรา หรือทาง Line Official @electronmove และช่องทางการติดต่อของ Electronmove เบอร์โทร : 093-659-4545 (เซลล์) 093-552-4444 (บริการหลังการขาย)
E-mail : support@electronmove.co.th